นักกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) ที่ลงแข่งในสังเวียน วัน แชมเปียนชิพ (One Championship) สมาคมเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้แบบผสมในประเทศสิงคโปร์ นอกจากเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางว่าเป็นสมาคมศิลปะการต่อสู้แบบผสมที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชียแล้ว นักสู้ MMA ทั้งชายและหญิงเหล่านี้ หลายๆ คนยังพ่วงความหล่อความสวยติดตัวมาอีกด้วยอย่างหลากหลายเชื้อชาติกันเลยทีเดียว และนี่คือเหล่าหนุ่มๆ นักสู้ MMA ในสังเวียน One Championship ทั้ง 9 คนที่มีดีกรีทักษะการต่อสู้อีกทั้งความหล่อที่ต้องขอบอกต่อว่าไม่ค้านสายตาแน่นอน
-
บรูโน ปุชชี “PUCCIBULL”
บรูโน ปุชชี ดีกรีแชมป์โลกบราซิลเลียนยิวยิตสูสองสมัย ส่วนสูง 180 เซนติเมตร หลังเปิดตัวในวงการนี้และคว้าชัยได้สองครั้ง เขาจึงยอมห่างบ้านเกิดที่บราซิล มุ่งหน้าสู่สิงคโปร์เพื่อฝึกซ้อมกับยิม Evolve MMA อันลือชื่อ ซึ่งนำเขาสู่การขึ้นสังเวียนระดับโลก วัน แชมเปียนชิพ อย่างรวดเร็ว ในฐานะนักปล้ำจับล็อกสุดเร้าใจมากที่สุดคนหนึ่งของรุ่นเฟเธอร์เวต
-
นิกี โฮลสเกน “THE NATURAL”
นิกี โฮลสเกน ดีกรีแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่งหลายสมัยชาวเนเธอร์แลนด์ ทั้งหล่อล่ำเต็มไปด้วยรอยสักแทบทุกสัดส่วนกับความสูง 182 เซนติเมตร เริ่มต้นเรียนมวยสากลเมื่ออายุได้ 10 ขวบ ก่อนฝึกวิชาคิกบ็อกซิ่งและมวยไทยในเวลาต่อมา ตามล่าความฝันในการเป็นนักสู้ MMA ตัดสินใจร่วมงานในฐานะนักกีฬา วัน ซูเปอร์ ซีรีส์ และต้องการคว้าแชมป์โลกมาครองให้ได้ไวที่สุด
-
ธานฮ์ เล
ธานฮ์ เล ดีกรีแชมป์ Legacy Fighting Alliance รุ่นเฟเธอร์เวต หนุ่มหล่อลูกครึ่งชาวเวียดนาม-อเมริกัน ส่วนสูง 177 เซนติเมตร เติบโตที่เมืองนิวออร์ลีนส์ สหรัฐอเมริกา ในยิมฝึกสอนเทควันโดซึ่งพ่อของเขาเป็นเจ้าของ เกมการต่อสู้ของเขาเต็มไปด้วยความหลากหลาย ทั้งการเตะที่รวดเร็ว ทรงพลังลีลาจากความเป็นนักเทควันโด เมื่อเซ็นสัญญากับ วัน แชมเปียนชิพ ก็สามารถล้มแชมป์เก่า 2 สมัยคว้าแชมป์ วัน แชมเปียนชิพ รุ่นเฟเธอร์เวต มาครองได้
-
มาร์ติน เหงียน “THE SITU-ASIAN”
มาร์ติน เหงียน เกิดและเติบโตในนครซิดนีย์ ออสเตรเลียภายในครอบครัวชาวเวียดนาม ส่วนสูง 173 เซนติเมตร ดูน่ารักอบอุ่นในแบบหนุ่มเอเชีย ในสมัยเรียนเขาเป็นนักกีฬารักบี้อนาคตไกล ในด้านการต่อสู้ MMA เขามีฝีมือเผด็จศึกคู่ต่อสู้มาแล้วทั้งการน็อกเอาต์และซับมิชชัน แต่ที่ถนัดเห็นจะเป็นการใช้หมัด รวมถึงแข้งและเข่าเมื่อเซ็นสัญญากับวัน แชมเปียนชิพ ในปี 2014 และสร้างผลงานเคยขึ้นแท่นแชมป์โลกคนแรกคนในประวัติศาสตร์ของ วัน แชมเปียนชิพ ที่ครองแชมป์โลกสองรุ่นน้ำหนักอีกด้วย
-
โบรแกน สตอร์ตอิง “BROKEN HEART”
โบรแกน สตอร์ตอิง ดีกรีแชมป์เทควันโดจากออสเตรเลีย ส่วนสูง 178 เซนติเมตร สำหรับในฐานะนักสู้ MMA บนเวที วัน แชมเปียนชิพ เขาก้าวเข้าเทิร์นโปรครั้งแรกในปี 2018 อาจมีหลายคนคุ้นหน้าคุ้นตาเขามาก่อน ด้วยความหล่อเหลาในฐานะผู้เข้าประกวด The Face Men Thailand ซีซัน 2 ในปี 2561 ซึ่งเป็นใบเบิกทางให้เขาได้งานในวงการบันเทิง ทั้งถ่ายแบบและเล่นหนังโฆษณาแบรนด์ดังมากมาย
-
เคียมเรียน อับบาซอฟ “BRAZEN”
เคียมเรียน อับบาซอฟ ดีกรีแชมป์ Prime Selection GP รุ่นเวลเตอร์เวต เป็นหนุ่มหล่อเคราเข้มครึ้มเจ้าของความสูง 183 เซนติเมตร เติบโตขึ้นในเมืองหลวงของคีร์กีซสถาน เขาเริ่มต้นเรียนวิชามวยปล้ำเกรโก-โรมัน ก่อนเพิ่มเติมความสามารถด้วยวิชามวยสากล และเดินหน้าสู่การต่อสู้ในสังเวียนนักสู้ MMA เมื่ออายุ 18 ปี และเมื่อเปิดตัวบนสังเวียน วัน แชมเปียนชิพ ก็ทำผลงานเป็นที่หน้าจับตา จนในปี 2021 เขาได้คว้าแชมป์ วัน แชมเปียนชิพ รุ่นเวลเตอร์เวต มาครองได้สำเร็จ
-
จอร์จิโอ เปโตรเซียน “THE DOCTOR”
จอร์จิโอ เปโตรเซียน ดีกรีแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่งหลายสมัย อีกหนึ่งหนุ่มหล่อในสไตล์เคราเข้มคนนี้มีส่วนสูง 178 เซนติเมตร เกิดในอาร์เมเนีย เติบโตในอิตาลี เป็นหนึ่งยอดนักมวยคิกบ็อกซิ่งที่แข็งแกร่งและยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล เขาประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่และน่าจดจำนับครั้งไม่ถ้วน รวมถึงการเป็นแชมป์ K-1 World MAX, แชมป์ Glory Slam Tournament และอีกมากมาย
-
ฮิโรยูกิ เทตซูกะ “LAST SAMURAI”
ฮิโรยูกิ เทตซูกะ ดีกรีแชมป์แพนเครส (Pancrase) ซึ่งเป็นองค์กรศิลปะป้องกันตัวชื่อดังของญี่ปุ่น โดยหนุ่มญี่ปุ่นคนนี้มีความคมเข้มแบบเอเชียนสไตล์ หุ่นล่ำกล้ามใหญ่กำยำกระทัดรัดที่ส่วนสูง 168 เซนติเมตร ใบหน้าเพิ่มหนวดเคราเสริมเสน่ห์ เป็นนักสู้ MMA จอมปล้ำที่เคยไปหาประสบการณ์ที่สหรัฐอเมริกา 2 ปี โดยขึ้นชื่อว่ามีหมัดหนักและการโจมตีที่หนักหน่วงและทรงพลัง
-
ชนนภัทร วิรัชชัย “ONESHIN”
ชนนภัทร วิรัชชัย ดีกรีแชมป์สมัครเล่น MMA ปี 2010 รู้จักกันในนาม “ครูตอง” เป็นหนุ่มไทยแท้คมเข้มชาวกรุงเทพฯ ส่วนสูง 175 เซนติเมตร เขาศึกษาในคณะการโรงแรมและการท่องเที่ยวจีน มีโอกาสสอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติก่อนที่จะผันตัวมาเป็นนักสู้ MMA กล่าวได้ว่าเป็นนักสู้ MMA คนไทยรุ่นบุกเบิกยุคแรกๆ โดยหลังจากเก็บชัยชนะได้สองครั้งแบบสมัครเล่น 1 ปีหลังจากนั้นคือในปี 2011 จึงเริ่มเข้าวงการในสังเวียน วัน แชมเปียนชิพ เรียกได้ว่าเป็นผู้คร่ำหวอดในสังเวียนของ วัน แชมเปียนชิพ มาเกือบ 10 ปีเลยทีเดียว โดยที่ยังคงความหล่อเหลาเสมอต้นเสมอปลาย
ริกะ อิชิเกะ นักสู้ MMA หญิงคนแรกของไทยในสังเวียน One Championship
รู้หรือไม่ มีนักกีฬา MMA หญิงสายเลือดไทย ได้ขึ้นสังเวียนใหญ่ระดับเอเชีย เธอคนนี้มีชื่อว่า “ริกะ อิชิเกะ” ลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น เรียกได้ว่าเป็นดาวเด่นของแวดวง MMA ที่น่าจับตาทั้งในเรื่องความสามารถเชิงการต่อสู้ ด้วยดีกรีครูสอนมวยไทย-MMA และบุคลิกหน้าตาอันสะสวยโดดเด่นสุดๆ อีกด้วยจนไม่น่าแปลกใจที่เธอได้รับฉายา “ยิ้มสังหาร” (Smiling Assassin)
ริกะ มีคุณพ่อเป็นคนญี่ปุ่น ส่วนคุณแม่เป็นคนไทย โดยมีพี่น้อง 3 คน ซึ่ง ริกะ เป็นคนกลาง ตั้งแต่ 9 ขวบ เธอเริ่มฝึกศิลปะการต่อสู้ทั้งไอกิโด, คาราเต้ และเทควันโด เพราะเป็นลูกครึ่ง ริกะ จึงมักตกเป็นเป้าสายตา โดยเฉพาะเพื่อนเกเรที่ชอบแกล้งเธอสมัยเรียนอยู่ชั้นมัธยม นานวันเข้าก็หนักข้อขึ้นถึงขั้นลงไม้ลงมือ
อย่างไรก็ตาม เธอไม่ยอมตกเป็นเหยื่อที่ถูกเล่นงานอยู่ฝ่ายเดียว เมื่อไม่อาจเปลี่ยนคนอื่น เธอจึงเลือกที่จะเปลี่ยนตัวเอง ด้วยการหันมาฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ จนมีทักษะติดตัว และมั่นใจว่าสามารถปกป้องตนเองได้ โดย ริกะ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากสถาบันการบินพลเรือน และทำงานออฟฟิศประมาณปีเศษ ก่อนที่จะลาออกมาเนื่องด้วยความสนใจด้านกีฬามากกว่า
จากความหลงใหลในกีฬาการต่อสู้ MMA นี้ ด้วยการฝึกซ้อมอย่างจริงจัง ริกะได้เริ่มขึ้นสังเวียนอาชีพครั้งแรกในศึก วัน แชมเปี้ยนชิพ” เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2017 ส่งผลให้เธอกลายเป็นนักกีฬา MMA หญิงไทยคนแรกที่ได้เข้าแข่งขันรายการดังกล่าว และมีแฟนๆ หลงเสน่ห์ เฝ้าติดตามทุกความเคลื่อนไหวของเธอนับแต่นั้นเป็นต้นมา เธอสามารถคว้าชัยชนะได้ตั้งแต่ยกแรก ในสองไฟต์แรกบนสังเวียนการแข่งขันระดับโลก
ริกะได้แสดงมุมมองว่า ณ ปัจจุบัน ผู้หญิงให้ความสนใจกับกีฬาการต่อสู้ MMA เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเรียนเพื่อป้องกันตัว หรือเพื่อการแข่งขัน โดยเป้าหมายในการเป็นนักกีฬา MMA ของเธอนั้น ยังไม่มองไกลไปถึงการชิงแชมป์ในการลงแข่งขันระดับอาชีพ ณ เวลานี้ แต่สิ่งสำคัญคือเธออยากให้ทุกคนหันมาเปิดใจยอมรับกีฬาชนิดนี้ กีฬาที่น่าจะมีความเหมาะสมกับชาวไทยอยู่ไม่น้อย
“อยากจะทำให้ทุกคนหันมายอมรับ แล้วก็เปิดใจกับกีฬา MMA ว่าจริงๆ แล้ว มันไม่ได้อันตราย รุนแรง หรือว่าน่ากลัวอะไรเลย…แล้วนักกีฬาไทยหลายๆ คน จากหลายๆ กีฬา อย่างเช่น เทควันโด คาราเต้ หรือมวยไทย ก็สามารถเข้าไปสู่ MMA ได้ค่ะ คิดว่าคนไทยน่าจะทำได้ดีไม่แพ้ต่างชาติด้วยค่ะ” ริกะ ได้กล่าวทิ้งท้ายไว้
Reference